Monday, December 23, 2013

อนุทินที่ 4


1.  เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545

            ตอบ  สาเหตุที่ต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545   ก็เพราะ โดยที่กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการศึกษาภาคบังคับจำนวนเก้าปี โดยให้เด็กที่มีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่จะสอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ จึงสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้

2.ท่านเข้าใจความหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 อย่างไร

            ตอบ    ก. ผู้ปกครอง หมายถึง บิดา หรือมารดา หรือบิดามารดา ซึ่งเป็นผู้ให้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่บ้านอยู่รับใช้งาน

            ข.เด็ก  หมายความว่า เด็กที่มีอายุย่างเข้าปีเจ็ด จนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว

            ค.การศึกษาภาคบังคับ หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ

          ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายความว่า องค์การส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด

3. กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน

ตอบ กรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตาม มาตราที่ 6 คือ ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา หากผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามดังกล่าวผู้ปกครองจะมีบทลงโทษตาม มาตราที่ 13 คือ ต้องระวางทาปรับไม่เกิดหนึ่งพันบาท

กรณีที่สอง หากเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาผู้ที่อำนาจในการจัดผ่อนผันเด็กเข้าเรียนคือ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ใดๆ ตามมาตราที่ 7

4.ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ แล้วทำข้อสอบแบบเลือกตอบมีทั้งหมด 21 ข้อ

1. อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในกฎหมายฉบับใด

        ตอบ ค. พรบ. ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ

 2.ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ

        ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

 3.การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น 3 ส่วนคือข้อใด

       ตอบ  ง.ส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาของรัฐระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล

4.การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการให้คำนึงถึงข้อใด                    

        ตอบ  ง.ข้อ ก และ ข ถูกต้อง

5.บทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะต้องดำเนินการตาม พรบ. นี้คือข้อใด  

        ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง

 6.ข้อใดคือการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง

        ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

  7.ส่วนราชการส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการตามข้อใดที่ไม่เป็นนิติบุคคล

       ตอบ  ก. สำนักงานรัฐมนตรี

  8.  ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ

        ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

  9.ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษา

         ตอบ  ค. ประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน

  10.ใครเป็นประธานคณะกรรมการสภาการศึกษา

         ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

  11. คณะกรรมการชุดใดที่กำหนดตำแหน่งประธานกรรมการไว้ในพรบ.นี้

         ตอบ  ก. คณะกรรมการสภาการศึกษา

 12.ใครทำหน้าที่รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

         ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง

  13.บุคคลใดต่อไปนี้เป็นข้าราชการการเมือง

        ตอบ ง. ข้อ ข และ ค ถูก

  14.ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

         ตอบ ง. ติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ

  15.หน่วยงานระดับใดสามารถมีผู้ตรวจราชการได้

         ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

  16.ข้อใดคือบทบาทของคณะตรวจราชการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

        ตอบ ค. ศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมิน ผลการบริหารและการดำเนินงาน

  17.ข้อใดคือบทบาทของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

         ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

  18.ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาได้หน่วยงานใดจะเป็นผู้จัด  

         ตอบ ก. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

  19.หน่วยงานอื่นสามารถจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานใดได้บ้างหากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถจัดได้

         ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

   20.ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงานรองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

         ตอบ ง. ข้อ ก และ ข

   21.ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา
       ตอบ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

 

Sunday, December 22, 2013

อนุทินที่ 3


แบบฝึกหัดทบทวน เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้ว จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

1). นักศึกษาอธิบายคำนิยามต่อไปนี้ ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

ก.การศึกษา

ข.การศึกษาขั้นพื้นฐาน

ค. การศึกษาตลอดชีวิต

ง. มาตรฐานการศึกษา

จ. การประกันคุณภาพภายใน

ช.การประกันคุณภาพภายนอก

ซ. ผู้สอน

ฌ. ครู

ญ. คณาจารย์

ฐ. ผู้บริหารสถานศึกษา

ฒ. ผู้บริหารการศึกษา

ณ. บุคลากรทางการศึกษา

ตอบ        ก. การศึกษา คือ วิธีการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลง ความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้ และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตและสามารถนำไปใช้ในชีวิตของตนเองได้

ข. การศึกษาขั้นพื้นฐาน  คือ การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา เช่นการเรียนเตรียมอนุบาล การเรียนชั้นอนุบาล เรียนประถมศึกษา และการเรียนมัธยมศึกษาตามลำดับ

ค. การศึกษาตลอดชีวิต คือ การศึกษาที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จะใช้การศึกษาแบบตามอัธยาศัย

ง. มาตรฐานการศึกษา คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะคุณภาพตามที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบสำหรับส่งเสริมและกากับดูแล การตรวจสอบ การประเมิน และการประกันคุณภาพทางการศึกษา

จ. การประกันคุณภาพภายใน คือ การวัด การประเมินผล การติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษาหรือโรงเรียนนั้นๆ

ช. การประกันคุณภาพภายนอก คือ การวัด การประเมินผล การติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สานักงานดังกล่าวรองรับ เพื่อเป็นการประกันคุณภาพ และให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษา

ซ. ผู้สอน  คือ ครู อาจารย์ในสถานศึกษาต่างๆ ที่มีทุกระดับ

ฌ. ครู  คือ ผู้ที่ให้ความรู้แก่บุคคลที่มารับความรู้เช่น นักเรียน นักศึกษา

ญ. คณาจารย์ คือ บุคลากรต่างๆที่ทำหน้าที่ ด้านการสอนในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับปริญญาของรัฐและเอกชน

ฐ. ผู้บริหารสถานศึกษา คือ บุคลากรที่มีความรู้ในด้านการบริหารสถานศึกษา

ฒ. ผู้บริหารการศึกษา  คือ บุคลากรที่มีความรู้ในด้านของการบริหารสถานศึกษา

ณ. บุคลากรทางการศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ การปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศและการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ

2). ความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษานี้อย่างไรบ้างให้อธิบาย

ตอบ       ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา คือ  การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม จริยธรรมและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้

3). หลักการจัดการศึกษาประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ       หลักการจัดการศึกษา มี 3 ประการคือ (มาตรา 8)

(1) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสาหรับประชาชน

(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

4). การจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษา ตามที่กฎหมายกำหนดมีอะไรบ้าง

ตอบ       (1) มีเอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ

(2) มีการกระจายอำนาจ ไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น

(3) มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา

(4) มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา และการพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

(5) ระดมทรัพยากร จากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา

(6) การมีส่วนร่วม ของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น

5). สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา ที่กำหนดไว้ในกฎหมายมีอะไรบ้าง

ตอบ       1. การจัดการศึกษา ต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี อย่างทั่วถึง มีคุณภาพ และไม่เก็บค่าใช้จ่าย

2. บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์สังคม ผู้ด้อยโอกาสและผู้มีความสามารถพิเศษ มีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ

3. พ่อแม่ ผู้ปกครอง บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน สถานประกอบการ สถาบันศาสนาและสถาบันอื่น ๆ มีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่บุตรหลานของตนหรือบุคคลทั่วไป  ได้รับการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษี ตามที่กฎหมายกำหนด

6). ระบบการศึกษามีกี่รูปแบบแต่ละรูปแบบมีอะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ       มี 3 รูปแบบ

1. การศึกษาในระบบคือการศึกษาตามมารตราฐานที่ไว้กำหนดไว้ในกฎหมาย

2. การศึกษานอกระบบ คือ การศึกษาที่เรียนนอกเหนือจากวันเวลาที่กำหนด เช่น การเรียนเสาร์ อาทิตย์

3. การศึกษาตามอัธยาศัย คือ การศึกษาตามอัธยาศัยที่สามารถศึกษาจากที่ไหนก็ได้

7). การจัดการศึกษาในระบบมีอะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ       แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษา

8). สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลเป็นอย่างไร

ตอบ       การให้มีการกรจ่ายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาทั้งด้านวิชาการ การบริหารงานบุคคล งบประมาณ และการบริหารงานทั่วไป ไปยังสถานศึกษามีความคล่องตัว เป็นอิสระ สามารถบริหารการศึกษาในสถานศึกษาได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

9). แนวทางการจัดการศึกษามีหลักยึดอะไรบ้าง

ตอบ       โดยยึดหลักให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ให้ถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุดและต้องให้แต่ละคนสามารถพัฒนาตามความถนัด ความสนใจและเต็มศักยภาพของเขา

10). ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่กำหนดให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ทั้งรัฐและเอกชนจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ

ตอบ        เห็นด้วย เพราะ การมีใบประกอบวิชาชีพจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีคุณภาพในการสอนได้อย่างเต็มที่และทำให้บุคคลที่ได้รับการพัฒนาจะนำความรู้ไปพัฒนาตนเองและสังคมได้

11). มีวิธีการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาในท้องถิ่นของท่านได้อย่างบ้าง

ตอบ        คือ การรณรงค์เรื่องทรัพยากรในท้องถิ่นให้เห็นถึงคุณค่าที่จะเกิดขึ้นหากเรานำทรัพยากรในท้องถิ่นเหล่านั้นมาพัฒนาการศึกษา ยกตัวอย่างสิ่งเหล่านั้นด้วย

12). การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มีวิธีการพัฒนาได้อย่างไร

ตอบ      การที่เรานำสื่อการสอนที่มีอยู่แล้วมาปรับเปลี่ยนให้มีความน่าสนใจในการเรียนการสอนมากขึ้น  การที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการศึกษานั้น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง และการที่ให้เด็กได้เห็นคุณค่าของการใช้สื่อและเทคโนโลยีได้อย่างถูกวิธีและมีประโยชน์สูงสุดในการเรียนรู้